การปล่อยวาง ตอน ลิงเกลียดกะปิ
สวัสดีค่ะคุณผู้ชม วันนี้มีเรื่องเล่าดีๆเกี่ยวกับ การปล่อยวาง..ตอน ลิงเกลียดกะปิ มาฝากคุณผู้ชมกันค่ะ
การปล่อยวาง คือปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวง
ยกตัวอย่างเช่นลิงนั้นเกลียดกะปิ ถ้ากะปิถูกมือมันเมื่อไหร่มันจะถูนิ้วกับพื้นจนเลือดไหลเต็มมือจนกว่ากลิ่นกะปิจะหาย ในที่สุดจนกลายเป็นว่า “กะปิ” ถึงจะร้ายก็ไม่ร้ายเท่า “ความเกลียดกะปิ” ที่มือลิงเป็นแผลเหวอะหวะ ไม่ใช่เพราะกะปิหากเป็นเพราะความจงเกลียดจงชังกะปิต่างหาก
สิ่งที่เราเกลียดนั้น บ่อยครั้งไม่น่ากลัวเท่ากับความพยาบาทและความเกลียดชังในจิตใจเรา ความเกลียดชังหรือพูดให้ถูกก็คือ ความรู้สึกอยากผลักไสซึ่งรวมทั้ง ความโกรธและความกลัว ทั้ง 2 อย่างนี้เป็นเสมือนเจ้าตัวร้ายที่เราต้องระวังให้มากๆ แต่นั่นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของความเป็นจริงเท่านั้น เพราะอีกครึ่งหนึ่งก็คือความยึดติด เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องระวังไม่แพ้กัน
เราลองกลับมาที่ลิงจอมซนอีกที...ในอินเดียลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้านเพราะชอบขโมยผลไม้ในสวน ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิงโดยใช้กล่องไม้ ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็กๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้ ในกล่องมีถั่วซึ่งเป็นของโปรดของลิงวางไว้เป็นเหยื่อล่อ วันดีคืนดีลิงมาที่สวนเห็นถั่วอยู่ในกล่องก็เอามือล้วงเข้าไปหยึบถั่ว แต่พอถอนมือออกมาก็ติดฝากล่อง เพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝา กล่องที่เจาะไว้ ลิงพยายามดึงมือเท่าไหร่ก็ไม่ออก พอชาวบ้านมาจับก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้ เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียว สุดท้ายก็ถูกคนจับได้ ลิงหาได้เฉลียวใจไม่ว่าเพียงแค่มันคลายมือออกเท่านั้น มันก็เอาตัวรอดได้ แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย จึงต้องเอาชีวิตเข้าแลก
มีหลายอย่างที่เราอยากได้ใฝ่ฝันจึงถึงกับยึดไว้อย่างเหนียวแน่นเวลาประสบปัญหาเพียงแค่คลายสิ่งที่ติดยึดนั้นเสียบ้าง ปัญหาก็คลี่คลายแต่เป็นเพราะเราไม่ยอมปล่อยจึงเกิดผลเสียตามมามากมายไม่คุ้มกับสิ่งที่ติดยึด จะชอบหรือพึงใจกับอะไรก็ตามอย่าถึงกับยึดติดจนเหนียวแน่นเกินไปเพราะโอกาสที่หน้ามืดตามัวนั้นมีสูงจนหาทองออกไม่เจอ ปัญหาทั้งหลายในชีวิตนั้นถ้าเรารู้จักปล่อยวางบางสิ่งเสียบ้างมันก็จะบรรเทาไปได้เยอะ
บ่อยครั้งการปล่อยวางไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาเท่านั้น หากเป็นทางออกจากปัญหาเลยทีเดียว ความจริงการอยากผลักไสอะไรสักอย่างก็เป็นการติดยึดอีกแบบหนึ่งนั้นเอง ทั้งๆที่ลิงพยายามถูกำจัดกลิ่นกะปิไปจากมือก็อดไม่ได้ที่จะดึงมือมาดมหากลิ่นกะปิซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้ทั้งรู้ว่ากลิ่นกะปินั้นเหม็น แต่ก็อดดมมือไม่ยอมเลิกง่ายๆ
ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าเราจะโกรธอะไรหรือเกลียดใคร ก็มักดึงสิ่งนั้นหรือคนนั้นเข้ามาในจิตใจให้ครุ่นคิดเสมอ ไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวางเสียที ทั้งๆที่ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ ปล่อยว่างเสียเถิดแล้วใจเราจะเบาขึ้นเป็นกอง ความทุกข์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือประสบกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาที่มันบีบคั้นกดทับจิตใจเราไม่หยุดหย่อนเสียที ก็เป็นเพราะเราไปยึดไปแบกมันเข้าไว้ ทั้งวันทั้งคืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น